ไทดำ-ไทยทรงดำ: ถิ่นฐานและมรดกวัฒนธรรม
คำสำคัญ : นครปฐม, นครสวรรค์, ประจวบคีรีขันธ์, พิจิตร, พิษณุโลก, สุพรรณบุรี, เพชรบุรี, เลย,คนไทดำอพยพมาจากสิบสองจุไทเมื่อกว่าสองร้อยปีที่แล้ว
โดยมีการกล่าวถึงการเคลื่อนย้ายเข้ามาสู่ประเทศไทยหลายระลอกด้วยกัน
เมื่อครั้นแผ่นดินสมัยพระเจ้าตากสิน
เมื่อ พ.ศ.2323 คนไทดำเคลื่อนย้ายจากหลวงพระบางมาเมืองม้วยในหัวพันและเมืองแถน ลาว มาตั้งรกรากในเพชรบุรี
ใน 2 ปีต่อมา คนไทดำจากเมืองพวนในเชียงขวางและเมืองแถน
เคลื่อนย้ายมาตั้งถิ่นฐานในเพชรบุรีเช่นกัน และมีต่อมาอีกหลายระลอกในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวตามลำดับ
การอพยพของคนไทดำระลอกสุดท้ายเกิดขึ้นในช่วงที่ลาวเปลี่ยนเป็นคอมมิวนิสต์ พ.ศ.2518
กลุ่มคนไทดำจำนวนหนึ่งเคลื่อนย้ายข้ามแม่น้ำโขงเข้าสู่หนองคาย
แต่กลุ่มนี้อพยพไปยังประเทศที่สาม ได้แก่ ฝรั่งเศส สหรัฐ และออสเตรเลีย
กลุ่มชนไทดำจึงตั้งรกรากอยู่ในหลายจังหวัดด้วยกัน
ในเพชรบุรี และเคลื่อนย้ายขยายครอบครัวไปตั้งรกรายังจังหวัดอื่น ๆ ราชบุรี
สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และยังมีการเคลื่อนย้ายไปทางเหนือ
ในจังหวัดนครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก และบางกลุ่มข้ามแม่น้ำโขง
ตั้งถิ่นฐานในจังหวัดเลย
ศูนย์วัฒนธรรมไทดำหรือไทยทรงดำเป็นศูนย์รวมทางจิตใจของกลุ่มลูกหลานชาวไทดำหรือไทยทรงหรือลาวโซ่ง
โดยแสดงอัตลักษณ์สำคัญเป็นเฮือนกระดองเต่า
ซึ่งเป็นบ้านไม้ทรงไทดำที่ได้รับการเล่าขานว่าเป็นเอกลักษณ์ของกลุ่มชน หลังคาบ้านมีลักษณะโค้งเป็นกระโจม
ขณะที่ยอดจั่วบนหลังคาบ้านมีการประดับด้วยไม้แกะสลักเป็นกิ่งคล้ายเขาควาย
หรือเขากวางไขว้กัน เรียกว่า “ขอกุด”
ภายในมักนำเสนอเรื่องราวของการดำเนินชีวิตตามประเพณี เช่น ครัวไฟ ห้องผีหรือ
“กะล้อห่อง” ส่วนใต้ถุนบ้านจะสูงโล่งกว้าง ใช้เก็บสิ่งของเครื่องใช้ ในปัจจุบัน
แต่ละบ้าน มีกำหนดการจัดงานเฉลิมฉลองกลุ่มไทดำประจำปีหมุนเวียนกัน
โดยการจัดงานมักใช้ลานในบริเวณใกล้เคียงศูนย์วัฒนธรรม