แต่การเล่นผีตาโขนของชาวอำเภอด่านซ้าย
จังหวัดเลยในบุญเดือน 6 นั้น มีความหมายที่สำคัญต่อความเป็นอยู่และความเชื่อ งานบุญนั้นคือประเพณีบุญหลวง
อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย และประเพณีผีขนน้ำ บ้านนาซ่าว
ตำนานเรื่อง
“ผีขนน้ำ” และ “ผีตาโขน” มีอยู่หลายสำนวน
ผีขนน้ำเกี่ยวข้องกับวิญญาณของวัวและควายที่มีความสำคัญกับเกษตรกรรมในอดีต
บ้างกล่าวถึง “ผีตามคน” ในงานบุญผะเหว็ด ที่ผีตามคนเข้ามาขออาหาร
หรือจากเวสสันดรชาดก ตอนที่แห่พระเวสสันดรและนางมัทรีเข้าเมือง คนป่าที่เคยอยู่รับใช้อยากจะมาส่งพระเวสสันดรและครอบครัว
ต้องหาวัสดุต่าง ๆ มาปกปิดร่างกายเพราะความอายที่ไม่เคยเข้าเมืองมาก่อน ทำให้
ต่อมาจึงเพี้ยนเป็น “ผีตาโขน” นอกจากนี้
ยังมีการกล่าวถึงตำนานของเกี่ยวกับคู่หนุ่มสาวที่รักกัน
แต่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายไม่เห็นด้วย จึงลักลอบพบกัน
แต่วันหนึ่งพบกันที่อุโมงค์และถูกปิดตายอยู่ภายใน
ดวงวิญญาณจึงเฝ้าสมบัติและองค์พระธาตุศรีสองรัก ต่อมาภายหลังมีคนไปของเป็นบริวาร
จึงเรียกว่า ผีตามคน หมายถึง ผีที่เผ้าสมบัติตามเอาคนไปอยู่ด้วย
จนกลายมาเป็นผีตาโขน
จุดมุ่งหมายของการประกอบพิธีสัมพันธ์กับความเชื่อของคนในท้องถิ่นที่ผสามผสานระหว่างพราหมณ์
พุทธ และผี และสภาพของเมืองด่านซ้านที่เป็นเมืองกลางหุบเขาสลับซับซ้อร
อยู่ติดกับชายแดนไทยและลาว โดยมี “น้ำหมัน”
ไหลเลาะไปตามหุบเขาด่านซ้ายจากใต้ขึ้นเหนือ
กล่าวกันว่าประเพณีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขนเกิดจากงานบุญหลายงาน
เป็นไปตามวัฒนธรรมของคนไท-ลาว สอดคล้องกับฤดูกาลเพาะปลูก
-
บุญผะเหว็ด งานบุญเดือน 4 งานไร่เบาลงทำบุญและฟังเทศน์มหาชาติ
โดยเพื่อกันว่าหากจะได้พบพระศรีอาริย์
ต้องอดทนฟังเทศน์มหาเวสสันดรชาดกให้เสร็จสิ้นในวันเดียว
-
บุญบั้งไฟ งานบุญเดือน 6 เป็นช่วงต้นฤดูฝน
มีการทำบุญบั้งไฟอำนวยให้การเพาะปลูกอุดมสมบูรณ์ ก่อนเข้าสู่ช่วงทำไร่นา
-
บุญซำฮะ งานบุญเดือน 7 เพื่อชำระล้าง
บูชาบรรพบุรุษระลึกถึงผู้มีพระคุณ ไหว้ครู ไหว้หลักบ้านหลักเมือง ไหว้วิญญาณ
เป็นอาทิ
จนกลายเป็นงานบุญใหญ่
เรียกว่า “บุญหลวง” เป็นโอกาสของการฉลองต้นปีใหม่
บูชาบรรพบุรุษ ที่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในเมืองด่านซ้าย อ้อนวอนให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล
จึงมีการบูชาพระธาตุ ล้างพระธาตุ สรงธาตุ เวียนเทียน สู่ขวัญพระธาตุ
โดยมีพ่อกวนและพ่อแสนผู้รับหน้าที่ทำพิธีต่าง ๆ และดูแลพระธาตุศรีสองรัก
เรียกว่าเป็นผู้ติดต่อกับอำนาจเหนือธรรมชาติ
งานบุญหลวงนั้นประกอบด้วย
3 วันสำคัญ ได้แก่
- วันโฮม
เป็นการเบิกอุปคุตโดยนำขบวนโดยคนเฒ่าคนแก่ไปยังริมน้ำหมัน
และพ่อแสนเป็นผู้ทำพิธีในลำน้ำหมัน จากนั้น เดินทางกลับมายังวัดโพนชัย ในตอนเย็น
มีการรวมตัวที่บ้านเจ้าพ่อกวนเพื่อประกอบพิธีบายศรีสู่ขวัญ
- วันแห่พระมีการฟ้อนของชาวบ้านและผีตาโขนรอบวัดโพนชัยและตามถนนหนหางตั้งแต่เช้า
และหยุดพัก จนกลับมาแห่พระในช่วงบ่ายประกอบด้วยพระพุทธรูป 1
องค์และพระสงฆ์ 4 รูป และมีเจ้าพ่อกวนนั่งบนบั้งไฟ
เมื่อเสร็จพิธีในโบสถ์ชาวบ้านนำบั้งไฟไปจุดขอฝน
เดิมทีมีการล่องเครื่องแต่งกายผีตาโขน เพราะถือเป็นการลอยสิ่งที่ไม่ดีและโรคภัยไข้เจ็บติดไปกับผีตาโขนในลำน้ำหมัน
แต่ปัจจุบันเก็บไว้ใช้ปีต่อไป
- สุดท้ายเป็นวันฟังเทศน์
ชาวบ้านเตรียมแห่กัณฑ์เทศน์ที่จะถวายพระ ซึ่งการเทศน์นั้นกินเวลาถึง 1
วัน 1 คืน จึงต้องมีการนิมนต์พระจากวัดต่าง ๆ มาช่วยกันเทศน์
ในเช้าวันดังกล่าวจะมีการตั้งบาตรและตามด้วยการสะเดาะเคราะห์บ้านเมือง
นำเครื่องเซ่นไหว์ไปลอยเคราะห์ในลำน้ำหมัน
แหล่งความรู้เพิ่มเติม
ผู้ที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับความเป็นมา
ความเชื่อและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ลำดับพิธีและผู้นำพิธี รวมถึงความหมายของการจัดงานละเล่น
และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในงานบุญหลวง ฐานข้อมูลประเพณีท้องถิ่นในประเทศไทย
นอกจากนี้ยังมีประเพณีผีขนน้ำ ในบ้านนาซ่าว
ที่มีความใกล้เคียงกับผีตาโขนและงานบุญหลวง ชาวบ้าน ณ นาซ่าว
อำเภอด่านซ้ายจัดงานประเพณี “ผีขนน้ำ”
ในเดือนหก ตามความเชื่อที่ว่า จะช่วยนำน้ำจากฟ้ามาใช้เพาะปลูกข้าวและพืชผลทางการเกษตรจะอุดมสมบูรณ์
อีกนัยหนึ่งยังเป็นโอกาสของการทำพิธี “เลี้ยงบ้าน” หรือ”เลี้ยงผีปู่ตา” เพื่อบอกกล่าวปู่ตาหรือเจ้าปู่
ผีผู้รักษาภูมิบ้าน ให้ดูแลชาวบ้านเมื่อลงทำนา ทำไร่ ผีปู่ตาในทีนี้ก็คือ “เจ้าพ่อแสนเมือง”
ที่คอยดูแลคุ้มครองให้ชาวบ้านอยู่เย็นเป็นสุข
ปัจจุบัน
มีการจัดงานอย่างเป็นทางการมากขึ้น ขบวนแห่ผีขนน้ำกอปรขึ้นจากตัวแทนของหมู่บ้านที่ระบุที่มาอย่างเป็นระบบ
ขบวนพิธียังมีการเล่นดนตรีประกอบอย่างครื้นเครง โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่วัดโพธิ์ศรี
มีโรงทาน การออกร้านขายของ มีงานบุญทอดผ้าป่า และมีมหรสพยามค่ำคืน
นอกจากนี้
ยังมีพิพิธภัณฑ์ หนังสือ และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง สำหรับการค้นคว้าเพิ่มเติม
ดังนี้
พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเมืองด่านซ้าย(ผีตาโขน)
พิพิธภัณฑ์ผีตาโขนเป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น
ภายในนำเสนอเรื่องราวประวัติความเป็นมาของผีตาโขน กระบวนการทําหน้ากากผีตาโขน อันเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีและวัฒนธรรมของผู้คนในอําเภอด่านซ้าย
นอกจากนี้ยังเปิดวีดิทัศน์เกี่ยวกับงานประเพณีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขนให้รับชม ในระหว่างการจัดงานบุญหลวง
พิพิธภัณฑ์จัดกิจกรรมระบายสีหน้ากากผีตาโขนฟรี และได้เป็นของขวัญกลับบ้าน นับเป็นสถานที่ที่เหมาะสมกับการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับผีตาโขน
ประเพณีของคนด่านซ้ายอย่างดี
ผีตาโขน : สนุกสนานวันบุญหลวง
หนังสือเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัย “การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมกรณีศึกษาบ้านด่ายซ้าย นาเวียง และนาหอ ลุ่มน้ำหมัน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย” โครงการอบรมและวิจัยเชิงปฏิบัติการทางประวัติศาสตร์โบราณคดีและชาติพันธุ์ สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เนื้อหาเป็นการศึกษาระบบความเชื่อของชาวบ้านบริเวณบ้านด้านซ้าย โดยมี นพ. ภักดี สืบนุการณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลด่านซ้าย เป็นหัวหน้าโครงการวิจัยในพื้นที่ภายใต้การติดตามชี้แนะของ รศ. ศรีศักร วัลลิโภดม และคณะ เรียกได้ว่าหนังสือสามารถสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับศาสนาและความเชื่อในสังคมด่านซ้าย ผ่านรูปแบบสมุดภาพนิทานตำนานท้องถิ่น
ผีตาโขน มรดกแผ่นดินศรีสองรัก
หนังสือเล่มนี้ไม่เพียงบอกเล่าประเพณีการเล่นผีตาโขน
แต่พยายามให้คำอธิบายถึงบริบททางสังคมและวัฒนธรรมของจังหวัดเลย
เมืองที่เรียกว่าเป็นดานหน้าในหุบเขา “ด่านซ้าย”
นับเป็นชุมชนสำคัญที่เชื่อมโยงระหว่างคนสองฝั่งแม่น้ำโขงผ่านความเชื่อและพิธีกรรม
ผีตาโขนในฐานะมรดกวัฒนธรรมจึงสะท้อนพุทธศาสนาและความเชื่อในวิญญาณ
แม้ในปัจจุบันการท่องเที่ยวเข้ามามีส่วนในการเพิ่มสีสันให้กับพิธี
แต่คงไว้ซึ่งความหมายต่อชุมชน
ผีตาโขน :ศึกษาเฉพาะกรณีอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย
งานวิจัยฉบับนี้ให้ความสำคัญกับความเป็นมา
องค์ประกอบ และวิธีการเล่นผีตาโขน รวมถึงการศึกษาคุณค่าทางสังคมของการเล่นผีตาโขนที่มีต่อสังคม
ผลการศึกษาสะท้อนให้เห็นว่าการเล่นผีตาโขนในประเพณีบุญหลวงมีคติความเชื่อแบบผสมผสานระหว่างศาสนาพุทธ
ศาสนาพราหณ์ และภูติผีปีศาจ ตลอดจนอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ตามโลกทัศน์ของชาวอำเภอด่านซ้าย
จุดมุ่งหมายของการเล่นจึงเป็นการเสริมขวัญและกำลังใจ การเล่นยังช่วยรักษาบรรทัดฐานและสร้างเอกภาพในสังคม
เพราะผู้คนศรัทธาในสิ่งเดียวกัน การพัฒนาการละเล่นผีตาโขนจนกลายเป็นเทศกาลนั้น
นับเป็นการกระจายรายได้ภายในท้องถิ่นจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาชมงานประเพณีมากขึ้นในแต่ละปี
แต่การเล่นผีตาโขนของชาวอำเภอด่านซ้าย
จังหวัดเลยในบุญเดือน 6 นั้น มีความหมายที่สำคัญต่อความเป็นอยู่และความเชื่อ งานบุญนั้นคือประเพณีบุญหลวง
อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย และประเพณีผีขนน้ำ บ้านนาซ่าว
ตำนานเรื่อง
“ผีขนน้ำ” และ “ผีตาโขน” มีอยู่หลายสำนวน
ผีขนน้ำเกี่ยวข้องกับวิญญาณของวัวและควายที่มีความสำคัญกับเกษตรกรรมในอดีต
บ้างกล่าวถึง “ผีตามคน” ในงานบุญผะเหว็ด ที่ผีตามคนเข้ามาขออาหาร
หรือจากเวสสันดรชาดก ตอนที่แห่พระเวสสันดรและนางมัทรีเข้าเมือง คนป่าที่เคยอยู่รับใช้อยากจะมาส่งพระเวสสันดรและครอบครัว
ต้องหาวัสดุต่าง ๆ มาปกปิดร่างกายเพราะความอายที่ไม่เคยเข้าเมืองมาก่อน ทำให้
ต่อมาจึงเพี้ยนเป็น “ผีตาโขน” นอกจากนี้
ยังมีการกล่าวถึงตำนานของเกี่ยวกับคู่หนุ่มสาวที่รักกัน
แต่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายไม่เห็นด้วย จึงลักลอบพบกัน
แต่วันหนึ่งพบกันที่อุโมงค์และถูกปิดตายอยู่ภายใน
ดวงวิญญาณจึงเฝ้าสมบัติและองค์พระธาตุศรีสองรัก ต่อมาภายหลังมีคนไปของเป็นบริวาร
จึงเรียกว่า ผีตามคน หมายถึง ผีที่เผ้าสมบัติตามเอาคนไปอยู่ด้วย
จนกลายมาเป็นผีตาโขน
จุดมุ่งหมายของการประกอบพิธีสัมพันธ์กับความเชื่อของคนในท้องถิ่นที่ผสามผสานระหว่างพราหมณ์
พุทธ และผี และสภาพของเมืองด่านซ้านที่เป็นเมืองกลางหุบเขาสลับซับซ้อร
อยู่ติดกับชายแดนไทยและลาว โดยมี “น้ำหมัน”
ไหลเลาะไปตามหุบเขาด่านซ้ายจากใต้ขึ้นเหนือ
กล่าวกันว่าประเพณีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขนเกิดจากงานบุญหลายงาน
เป็นไปตามวัฒนธรรมของคนไท-ลาว สอดคล้องกับฤดูกาลเพาะปลูก
-
บุญผะเหว็ด งานบุญเดือน 4 งานไร่เบาลงทำบุญและฟังเทศน์มหาชาติ
โดยเพื่อกันว่าหากจะได้พบพระศรีอาริย์
ต้องอดทนฟังเทศน์มหาเวสสันดรชาดกให้เสร็จสิ้นในวันเดียว
-
บุญบั้งไฟ งานบุญเดือน 6 เป็นช่วงต้นฤดูฝน
มีการทำบุญบั้งไฟอำนวยให้การเพาะปลูกอุดมสมบูรณ์ ก่อนเข้าสู่ช่วงทำไร่นา
-
บุญซำฮะ งานบุญเดือน 7 เพื่อชำระล้าง
บูชาบรรพบุรุษระลึกถึงผู้มีพระคุณ ไหว้ครู ไหว้หลักบ้านหลักเมือง ไหว้วิญญาณ
เป็นอาทิ
จนกลายเป็นงานบุญใหญ่
เรียกว่า “บุญหลวง” เป็นโอกาสของการฉลองต้นปีใหม่
บูชาบรรพบุรุษ ที่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในเมืองด่านซ้าย อ้อนวอนให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล
จึงมีการบูชาพระธาตุ ล้างพระธาตุ สรงธาตุ เวียนเทียน สู่ขวัญพระธาตุ
โดยมีพ่อกวนและพ่อแสนผู้รับหน้าที่ทำพิธีต่าง ๆ และดูแลพระธาตุศรีสองรัก
เรียกว่าเป็นผู้ติดต่อกับอำนาจเหนือธรรมชาติ
งานบุญหลวงนั้นประกอบด้วย
3 วันสำคัญ ได้แก่
- วันโฮม
เป็นการเบิกอุปคุตโดยนำขบวนโดยคนเฒ่าคนแก่ไปยังริมน้ำหมัน
และพ่อแสนเป็นผู้ทำพิธีในลำน้ำหมัน จากนั้น เดินทางกลับมายังวัดโพนชัย ในตอนเย็น
มีการรวมตัวที่บ้านเจ้าพ่อกวนเพื่อประกอบพิธีบายศรีสู่ขวัญ
- วันแห่พระมีการฟ้อนของชาวบ้านและผีตาโขนรอบวัดโพนชัยและตามถนนหนหางตั้งแต่เช้า
และหยุดพัก จนกลับมาแห่พระในช่วงบ่ายประกอบด้วยพระพุทธรูป 1
องค์และพระสงฆ์ 4 รูป และมีเจ้าพ่อกวนนั่งบนบั้งไฟ
เมื่อเสร็จพิธีในโบสถ์ชาวบ้านนำบั้งไฟไปจุดขอฝน
เดิมทีมีการล่องเครื่องแต่งกายผีตาโขน เพราะถือเป็นการลอยสิ่งที่ไม่ดีและโรคภัยไข้เจ็บติดไปกับผีตาโขนในลำน้ำหมัน
แต่ปัจจุบันเก็บไว้ใช้ปีต่อไป
- สุดท้ายเป็นวันฟังเทศน์
ชาวบ้านเตรียมแห่กัณฑ์เทศน์ที่จะถวายพระ ซึ่งการเทศน์นั้นกินเวลาถึง 1
วัน 1 คืน จึงต้องมีการนิมนต์พระจากวัดต่าง ๆ มาช่วยกันเทศน์
ในเช้าวันดังกล่าวจะมีการตั้งบาตรและตามด้วยการสะเดาะเคราะห์บ้านเมือง
นำเครื่องเซ่นไหว์ไปลอยเคราะห์ในลำน้ำหมัน
แหล่งความรู้เพิ่มเติม
ผู้ที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับความเป็นมา
ความเชื่อและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ลำดับพิธีและผู้นำพิธี รวมถึงความหมายของการจัดงานละเล่น
และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในงานบุญหลวง ฐานข้อมูลประเพณีท้องถิ่นในประเทศไทย
นอกจากนี้ยังมีประเพณีผีขนน้ำ ในบ้านนาซ่าว
ที่มีความใกล้เคียงกับผีตาโขนและงานบุญหลวง ชาวบ้าน ณ นาซ่าว
อำเภอด่านซ้ายจัดงานประเพณี “ผีขนน้ำ”
ในเดือนหก ตามความเชื่อที่ว่า จะช่วยนำน้ำจากฟ้ามาใช้เพาะปลูกข้าวและพืชผลทางการเกษตรจะอุดมสมบูรณ์
อีกนัยหนึ่งยังเป็นโอกาสของการทำพิธี “เลี้ยงบ้าน” หรือ”เลี้ยงผีปู่ตา” เพื่อบอกกล่าวปู่ตาหรือเจ้าปู่
ผีผู้รักษาภูมิบ้าน ให้ดูแลชาวบ้านเมื่อลงทำนา ทำไร่ ผีปู่ตาในทีนี้ก็คือ “เจ้าพ่อแสนเมือง”
ที่คอยดูแลคุ้มครองให้ชาวบ้านอยู่เย็นเป็นสุข
ปัจจุบัน
มีการจัดงานอย่างเป็นทางการมากขึ้น ขบวนแห่ผีขนน้ำกอปรขึ้นจากตัวแทนของหมู่บ้านที่ระบุที่มาอย่างเป็นระบบ
ขบวนพิธียังมีการเล่นดนตรีประกอบอย่างครื้นเครง โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่วัดโพธิ์ศรี
มีโรงทาน การออกร้านขายของ มีงานบุญทอดผ้าป่า และมีมหรสพยามค่ำคืน
นอกจากนี้
ยังมีพิพิธภัณฑ์ หนังสือ และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง สำหรับการค้นคว้าเพิ่มเติม
ดังนี้
พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเมืองด่านซ้าย(ผีตาโขน)
พิพิธภัณฑ์ผีตาโขนเป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น
ภายในนำเสนอเรื่องราวประวัติความเป็นมาของผีตาโขน กระบวนการทําหน้ากากผีตาโขน อันเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีและวัฒนธรรมของผู้คนในอําเภอด่านซ้าย
นอกจากนี้ยังเปิดวีดิทัศน์เกี่ยวกับงานประเพณีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขนให้รับชม ในระหว่างการจัดงานบุญหลวง
พิพิธภัณฑ์จัดกิจกรรมระบายสีหน้ากากผีตาโขนฟรี และได้เป็นของขวัญกลับบ้าน นับเป็นสถานที่ที่เหมาะสมกับการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับผีตาโขน
ประเพณีของคนด่านซ้ายอย่างดี
ผีตาโขน : สนุกสนานวันบุญหลวง
หนังสือเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัย “การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมกรณีศึกษาบ้านด่ายซ้าย นาเวียง และนาหอ ลุ่มน้ำหมัน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย” โครงการอบรมและวิจัยเชิงปฏิบัติการทางประวัติศาสตร์โบราณคดีและชาติพันธุ์ สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เนื้อหาเป็นการศึกษาระบบความเชื่อของชาวบ้านบริเวณบ้านด้านซ้าย โดยมี นพ. ภักดี สืบนุการณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลด่านซ้าย เป็นหัวหน้าโครงการวิจัยในพื้นที่ภายใต้การติดตามชี้แนะของ รศ. ศรีศักร วัลลิโภดม และคณะ เรียกได้ว่าหนังสือสามารถสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับศาสนาและความเชื่อในสังคมด่านซ้าย ผ่านรูปแบบสมุดภาพนิทานตำนานท้องถิ่น
ผีตาโขน มรดกแผ่นดินศรีสองรัก
หนังสือเล่มนี้ไม่เพียงบอกเล่าประเพณีการเล่นผีตาโขน
แต่พยายามให้คำอธิบายถึงบริบททางสังคมและวัฒนธรรมของจังหวัดเลย
เมืองที่เรียกว่าเป็นดานหน้าในหุบเขา “ด่านซ้าย”
นับเป็นชุมชนสำคัญที่เชื่อมโยงระหว่างคนสองฝั่งแม่น้ำโขงผ่านความเชื่อและพิธีกรรม
ผีตาโขนในฐานะมรดกวัฒนธรรมจึงสะท้อนพุทธศาสนาและความเชื่อในวิญญาณ
แม้ในปัจจุบันการท่องเที่ยวเข้ามามีส่วนในการเพิ่มสีสันให้กับพิธี
แต่คงไว้ซึ่งความหมายต่อชุมชน
ผีตาโขน :ศึกษาเฉพาะกรณีอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย
งานวิจัยฉบับนี้ให้ความสำคัญกับความเป็นมา
องค์ประกอบ และวิธีการเล่นผีตาโขน รวมถึงการศึกษาคุณค่าทางสังคมของการเล่นผีตาโขนที่มีต่อสังคม
ผลการศึกษาสะท้อนให้เห็นว่าการเล่นผีตาโขนในประเพณีบุญหลวงมีคติความเชื่อแบบผสมผสานระหว่างศาสนาพุทธ
ศาสนาพราหณ์ และภูติผีปีศาจ ตลอดจนอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ตามโลกทัศน์ของชาวอำเภอด่านซ้าย
จุดมุ่งหมายของการเล่นจึงเป็นการเสริมขวัญและกำลังใจ การเล่นยังช่วยรักษาบรรทัดฐานและสร้างเอกภาพในสังคม
เพราะผู้คนศรัทธาในสิ่งเดียวกัน การพัฒนาการละเล่นผีตาโขนจนกลายเป็นเทศกาลนั้น
นับเป็นการกระจายรายได้ภายในท้องถิ่นจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาชมงานประเพณีมากขึ้นในแต่ละปี